
ถุงนอนและผ้าห่ม หนาวแค่ไหนควรใช้อะไร
การจัดที่นอนในเต๊นท์ของเราให้เหมาะสมกับสภาพอากาศนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะการไปเที่ยวนั้นคือการพักผ่อน ซึ่งการได้นอนหลับสนิทตลอดคืนนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ถ้าเรานอนแล้วต้องตื่นมาหนาวสั่นตอนตีสาม หรือนอนร้อนเหงื่อออกหลังแฉะ ก็คงไม่มีแรงที่จะทำกิจกรรมสนุกๆ ในวันต่อไป ดังนั้นเราควรจะเลือกถุงนอนหรือผ้าห่มให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่เราจะไปเจอ
เวลาเราเลือกซื้อถุงนอน สิ่งที่เราจะสังเกตกันเป็นลำดับต้นๆ ก็คือ Temperature Rating หรือตัวเลขที่บอกอุณหภูมิที่เหมาะกับการใช้งานถุงนอนรุ่นนั้นๆ ซึ่งเราก็ควรจะเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของเรา ถ้าใช้ถุงนอนบางเกินไปก็หนาวสั่น ใช้ถุงนอนหนามากก็ร้อนเกินไป โดยถุงบางรุ่นก็บอกเลขตัวเดียว บางรุ่นก็มีเลขหลายตัว แล้วเลขแต่ละตัวมีความหมายอย่างไรบ้าง

โดยทั่วไปตัว Temperature Rating จะมีตัวเลข 3 ตัว คือ Comfort Range, Transition Range และ Risk Range ครับ แต่ละตัวก็จะแปลความหมายออกมาต่างกัน
Comfort Range : คือช่วงอุณหภูมิที่คนทั่วไปสามารถนอนได้อย่างสบาย ไม่รู้สึกหนาว
Transition Range : คือช่วงอุณหภูมิที่คนทั่วไปเริ่มรู้สึกหนาว มีการนอนขดตัว และถือเป็นอุณหภูมิต่ำสุดที่สามารถใช้ถุงนอนนี้ได้อย่างปลอดภัย
Risk Range (Extreme Range) : คือช่วงอุณหภูมิที่คนทั่วไปรู้สึกหนาวจัด แต่ความรู้สึกภายในถุงนอนและนอกถุงนอนยังคงแตกต่างกัน การใช้งานในช่วงอุณหภูมินี้มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียความร้อนของร่างกาย (Hypothermia) ไม่ควรนำไปใช้ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน
จากคำอธิบายข้างบนก็คือตัวเลขที่เราควรจะสนใจก็คือ Comfort Range เป็นหลัก สำหรับคนที่ทนหนาวเก่งหรือขี้ร้อนก็อาจจะดูที่ Transition Range ก็ได้ สำหรับถุงนอนบางรุ่นที่มี Temperature Rating แค่ตัวเดียวก็ต้องดูให้ละเอียดว่าเลขที่บอกคือตัวไหน
ทั้งนี้ไม่ได้แปลว่าถ้าเรานอนที่อุณหภูมิ 15 องศา โดยใช้ถุงนอนที่มี comfort range ที่ 10 องศา แล้วเราจะอุ่นเสมอไป เพราะในความเป็นจริงมีตัวแปรอีกหลายๆ อย่างที่ส่งผลกับความอบอุ่นของเรา ทั้งลม ความชื้น เสื้อผ้าที่เราใส่และความรู้สึกของแต่ละคน เพียงแต่ Temperature Rating เป็นค่ามาตรฐานที่มาจากการทดสอบในตัวแปรควบคุมที่กำหนดไว้ ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่เราอ้างอิงได้ สามารถใช้เปรียบเทียบกันระหว่างถุงนอนแต่ละรุ่นได้ พอเราเอาไปใช้จริง ความรู้สึกก็อาจจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่ก็ต้องบอกว่าอยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงพอสมควร

อุณหภูมิเย็นสบายๆ ประมาณ 20 องศาขึ้นไป
ที่อุณหภูมิประมาณนี้ อย่างแรกเลย ก่อนที่จะไปเรื่องถุงนอนที่เราคุ้นเคยกัน อย่างหนึ่งผมอยากจะแนะนำก็คือการใช้ผ้าห่มครับ หลายคนอาจจะคิดว่าไปนอนเต๊นท์ ก็ต้องนอนถุงนอนสิ จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร ต้องบอกเลยว่าสำหรับตัวผมเองนั้น ชอบที่จะใช้ผ้าห่มมากกว่า เพราะผมเป็นคนนอนค่อนข้างดิ้น ดังนั้นการใช้ผ้าห่มทำให้ผมมีพื้นที่ในการขยับตัวที่มากกว่าถุงนอน
หลายคนอาจจะคิดว่าถ้าเรานอนด้วยผ้าห่มจะหนาวหลังหรือด้านล่างมั้ย เพราะต่างจากถุงนอน ผ้าห่มจะไม่มีผ้าด้านล่างที่รองอยู่ใต้ตัวเรา ในความเป็นจริงแล้วถ้าเรานอนบนแผ่นรองนอนนั้น ตัดเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะตัวแผ่นรองนอนที่ดีจะเป็นตัวสะท้อนความร้อนและให้ความอบอุ่นด้านล่างอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลครับ นอกจากนั้น ผ้าห่มและแผ่นรองนอนของ Thermarest เองก็จะมีชุด Snap Kit ที่ทำให้เราสามารถยึดผ้าห่มเข้ากับแผ่นรองนอนได้อีกด้วย
ข้อดีอีกอย่างของผ้าห่มก็คือ เราสามารถเอาผ้าห่มมาใช้นอกเต๊นท์ได้ด้วย เช่นเวลานั่งผิงไฟเราก็เอา ผ้าห่มมาคลุมตัวได้ แล้วก็ผ้าห่มบางรุ่นนั้นสามารถนำมาใส่เป็นเสื้อหนาวได้อีกต่างหาก ทำให้เป็นอุปกรณ์ที่สารพัดประโยชน์และลดจำนวนของที่เราต้องเอาติดตัวไป
ดังนั้น ถ้าเราไปในที่ที่ไม่หนาวมาก อาจจะอุณหภูมิตอนกลางคืนประมาณ 20 องศา การนอนด้วยผ้าห่ม ถือเป็นทางเลือกที่ดีมาก ทั้งสะดวกและสบาย สำหรับใครที่เคยนอนแต่ถุงนอน ต้องลองดูครับ แล้วคุณอาจจะไม่อยากนอนในถุงนอนอีกเลย ก็เป็นได้ครับ
ผ่านเรื่องผ้าห่มไปแล้ว คราวนี้ไปต่อกันที่เรื่องถุงนอนบ้าง
ในอุณหภูมิประมาณนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงนอนที่หนามาก เราสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของเรา ขึ้นอยู่กับว่าจะไปเดินป่าหรือไปแค้มป์คาร์ ถ้าต้องเดินก็แน่นอนว่าต้องเลือกถุงนอนที่ขนาดเล็กและน้ำหนักเบาหน่อย
อากาศหนาวปานกลาง 10-20 องศา
ที่อุณหภูมิประมาณนี้ สำหรับใครที่ชอบนอนด้วยผ้าห่มก็อาจจะใช้ผ้าห่มในรูปแบบที่เรียกว่า Quilt ก็ได้ ซึ่งจะเป็นผ้าห่มแบบที่มี foot box สามารถสวมยึดเข้ากับแผ่นรองนอนได้ ให้ความอบอุ่นได้มากกว่าผ้าห่มแบบธรรมดา มีวัสดุด้านในที่ดีกว่าและหนากว่า
อากาศหนาวต่ำกว่า 10 องศา
ถุงนอนที่ใช้ในอากาศหนาวจัด จะมีวัสดุด้านในสองแบบเป็นหลักก็คือเส้นใยสังเคราะห์และขนห่าน ทั้งสองวัสดุมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ลองมาเปรียบเทียบกันดู
ความอบอุ่นต่อน้ำหนัก
ขนห่านนั้นให้ค่าความอบอุ่นต่อน้ำหนักที่ไม่มีเส้นใยสังเคราะห์อะไรเทียบได้ และมีความฟูที่มากกว่า ดังนั้นในถุงนอนที่ให้ Temperature Rating เดียวกัน ถุงนอนที่ใช้ขนห่านจะมีน้ำหนักเบาและสามารถม้วนเก็บได้ขนาดเล็กกว่าถุงนอนใยสังเคราะห์ ฉะนั้นถ้าคุณต้องเดินทางระยะไกลที่น้ำหนักทุกกรัมมีความหมาย ถุงนอนขนห่านเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแน่นอน
การดูดซับน้ำ
ในเรื่องแน่นอนว่าใยสังเคราะห์นั้นได้เปรียบเพราะใยสังเคราะห์ตระกูลโพลีเอสเตอร์นั้นไม่ดูดน้ำและแห้งได้เร็วกว่า อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่สามารถเคลือบขนห่านด้วยสารกันน้ำจนได้เป็นขนห่านแบบ Hydrophobic ทำให้ถุงนอนขนห่านในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในเรื่องนี้ที่ดีขึ้นมาก อาจจะยังไม่เทียบเท่าใยสังเคราะห์แต่ก็ทำให้เราใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวล
ต้องยอมรับว่าราคาของถุงนอนที่เป็นขนห่านนั้นสูงกว่าถุงนอนใยสังเคราะห์พอสมควร แต่ด้วยคุณภาพและความนุ่มสบายที่มากกว่า และน้ำหนักที่เบากว่า สำหรับการเดินทางไปในที่หนาวๆ ยังไงถุงนอนขนห่านนั้นก็ดีกว่าแน่นอนครับ
เหมือนกับกันใช้งานของอื่นๆ ครับ การเลือกให้เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนอาจจะคิดว่าก็เลือกอันที่ Temperature Rating ต่ำสุดไว้ก่อน ยังไงก็คุ้ม หนาวก็ห่ม ร้อนก็เอาออก ซึ่งจะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิดครับ แต่อย่าลืมว่าถุงนอนยิ่งหนา ขนาดก็ยิ่งใหญ่ น้ำหนักก็ยิ่งมาก และราคาก็ยิ่งสูง ลองพิจารณากันดูครับว่า ถุงนอนหรือผ้าห่มรุ่นไหนที่จะเหมาะกับเราและคุ้มค่ามากที่สุด