เป้เดินป่า

เป้เดินป่า

ต่อมาก็เรื่องเป้ครับ

คำถามอย่างหนึ่งที่หลายคนถามโดยตลอดก็คือจะซื้อเป้รุ่นไหนดี เพราะเป้ในปัจจุบันมีหลายรุ่นหลายขนาดมาก เวลาจะเลือกซื้อเองผ่านช่องทางออนไลน์ หลายคนก็จะตัดสินใจไม่ถูก หรือถ้าไปที่ร้านโดยไม่เตรียมข้อมูลไปเลย ก็จะใช้เวลาเลือกนานมากๆ บทความนี้เรารวมข้อมูลทั้งหมดและขั้นตอนการเลือกเป้ทั้งหมดไว้ หวังว่าท่านที่ได้อ่านแล้วก็น่าจะเลือกเป้ให้ตัวเองได้อย่างเหมาะสมครับ

ในการเลือกเป้นั้นมี 3 อย่างที่เราต้องรู้และเข้าใจ

  • “ความจุเป้เท่าไหร่ดี ?”
    ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เดินทางในรูปแบบไหน ระยะเวลากี่วัน จะเอาของอะไรไปบ้าง
  • “การออกแบบเป้ แตกต่างกันอย่างไร ?”
    แต่ละรุ่นก็จะมีราคาและจุดเด่นที่ต่างกัน รุ่นไหนที่เหมาะกับความต้องการของเรามากที่สุด
  • “ไซส์ของเป้ คืออะไร สำคัญแค่ไหน ?”
    คำว่าไซส์นี้ไม่ได้หมายถึงขนาดความจุ แต่หมายถึงความยาวหลัง คนตัวใหญ่และตัวเล็ก ก็จะใช้เป้ไซส์ไม่เท่ากัน ซึ่งต้องเลือกให้พอดี

ความจุเป้เท่าไหร่ดี?

สำหรับการเดินดอยในบ้านเรานั้น ขอฟันธงให้เลยครับ ว่าขนาดเป้ที่เหมาะสมคือ 40-55 ลิตรสำหรับผู้ชาย และ 38-50 ลิตร สำหรับผู้หญิง เป้ขนาดนี้มีขนาดกำลังเหมาะที่เดินได้อย่างคล่องตัวในป่าที่อาจจะรก แต่ก็มีความจุเหลือเฟือที่จะใส่ของจำเป็นสำหรับการเดินป่า 3-5 วันได้สบายถ้าหากคุณเลือกใช้ของที่มีขนาดเล็กมีคุณภาพที่ออกแบบมาสำหรับการเดินป่า

ถ้าคุณใช้เป้ 50-55 ลิตรแล้วยังใส่ของไม่พอ แสดงว่าคุณอาจจะมีของที่ไม่จำเป็นอยู่ในเป้มากเกินไป หรือ เลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม 

3 ช่วงความจุของเป้ว่าแต่ล่ะช่วงความจุเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน

35 - 45 ลิตร

เป้ Backpack ขนาดเล็ก ที่เหมาะกับเดินทาง 2-4 วัน หรือการเดินป่าระยะสั้นๆ 2-3 วัน

ข้อดีอย่างหนึ่งของเป้ขนาดประมาณนี้ก็คือเราสามารถ carry on ขึ้นเครื่องบินได้ โดยไม่ต้องโหลดใต้เครื่อง ทำให้สะดวกเวลาเดินทาง สำหรับคนที่ใช้สายการบิน low cost ก็ไม่ต้องเสียค่าโหลดกระเป๋า รวมไปถึงไม่ต้องรอคิวรับกระเป๋าอีกด้วย

คนที่จะใช้เป้เดินทางไปเที่ยว เป้ขนาดประมาณนี้สามารถใส่ของได้ค่อนข้างครบถ้วน อาจจะมีเสื้อผ้า 2-3 ชุด เสื้อหนาว 1-2 ตัว ก็จะมีพื้นที่เหลือให้ใส่ของอื่นๆ อีกไม่น้อย ส่วนสำหรับการเดินป่าก็จะเหมาะกับทริปสั้นๆ หรือการเดินป่าที่มีลูกหาบช่วยแบ่งสัมภาระออกไป

45 - 60 ลิตร

เป้ความจุกลางๆ เหมาะกับการไปเที่ยว 4-7 วัน หรือไปเดินป่า  3-5 วัน

เป้ขนาดประมาณนี้ เป็นความจุที่เหมาะสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบ ใครที่มองว่าอยากได้เป้ใบเดียว ไปได้ทุกทริป ทุกแบบ ก็จะแนะนำเป็นเป้ขนาดนี้ เวลาเดินทางไปเที่ยว ด้วยเป้ขนาดนี้เราสามารถเสื้อผ้าได้หลายชุด  มีที่เหลือให้ใส่ของฝากกลับมาได้สบายๆ รวมไปถึงใส่เสื้อหนาวและของใช้ต่างๆ ส่วนสำหรับการเดินป่า เราก็จะใส่ของได้มากขึ้น เพิ่มอาหารและอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างครบถ้วน ถ้าเดินป่าเมืองไทย ซึ่งส่วนใหญ่เส้นทางไม่ยาวมาก เป้ความจุประมาณนี้ก็ลงตัวที่สุด

60 - 75 ลิตร

เป้ขนาดใหญ่สำหรับการเดินทางเกิน 7 วัน หรือเดินป่าระยะไกลที่แบกของเองทั้งหมด

ด้วยความจุประมาณนี้คุณจะได้เป้ที่มีของทุกอย่างที่คุณอยากเอาไป เหมาะสำหรับคนที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทริปยาวๆ ที่ต้องเอาเสื้อผ้า เสื้อหนาวและของต่างๆ ไปจำนวนมาก เช่นเดียวกันสำหรับคนที่ไปเดินป่าระยะไกลและต้องแบกของเองทั้งหมด เป้ความจุในช่วงนี้น่าจะทำให้เราสามารถเอาของที่จำเป็นทั้งหมดติดตัวไปด้วยได้

การออกแบบเป้ แตกต่างกันอย่างไร?

โดยทั่วไปแล้ว เป้ Backpack จะมีโครงเป้อยู่ 2 แบบหลักๆ ก็คือแบบเป้แบบ On the Back และเป้แบบ Ventilation ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีจุดเด่นในการใช้งานที่แตกต่างกัน

เป้ On the Back 

เป็นเป้ที่ออกแบบมาให้สะพายได้สบาย สามารถรับน้ำหนักได้มาก โครงเป้จะอยู่ติดกับหลังทำให้น้ำหนักสัมภาระในเป้อยู่ใกล้ตัว ตัวอย่างเช่น Gregory Baltoro V3 และ Deva V3 ซึ่งเป็นเป้ที่ออกแบบมาสำหรับการรับน้ำหนักมากและการเดินทางไกลโดยเฉพาะ มีระบบการถ่ายเทน้ำหนักลงสู่สะโพกที่ดีที่สุด ทำให้คุณสามารถสะพายเป้หนัก 20 กก. ได้อย่างง่ายๆ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่เดินเท้าระยะไกล หรือนักเดินทางที่ต้องสะพายเป้เป็นเวลานานๆ 

หรืออีกรุ่นหนึ่งอย่าง Gregory Stout และ Amber ก็จะเป็นเป้แบบ On the Back ในราคาไม่แพง ถึงแม้ฟังก์ชั่นการใช้งานและเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ได้ครบเครื่องอย่าง Baltoro V3 และ Deva V3 แต่ก็ลงตัวสำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทาง เป็นเป้สารพัดประโยชน์  ที่สะพายได้สบาย ในทุกทริปการเดินทาง

เป้ Ventilation

เป้แบบนี้จะเน้นให้มีช่องว่างระหว่างตัวเป้และแผ่นหลังของเรา นั่นคือขยับตัวเป้ออกห่างจากตัวเราเล็กน้อย ทำให้รับน้ำหนักได้ไม่มากเท่าเป้แบบ On the Back แต่ช่องว่างนี้ช่วยให้ระบายอากาศได้ดียิ่งชึ้น เป้ในลักษณะนี้นั้นเหมาะมากสำหรับการเดินป่าในเมืองไทย เพราะว่าบ้านเรานั้นอากาศร้อน บางครั้งเป้ที่อยู่ติดตัวเกินไปอาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ ตัวอย่างของเป้ในกลุ่มนี้ก็มีหลายรุ่นด้วยกันอย่างเช่น Gregory Zulu และ Jade ซึ่งเป็นเป้รุ่นยอดนิยมสำหรับนักเดินป่า ด้วยโครงเป้ที่น้ำหนักเบา การระบายอากาศที่ดี และรูปทรงที่สวย น่าใช้ ตรงกับความต้องการของนักเดินป่า หลายๆคน

นอกจากนั้นใครที่เป็นสาย Ultra Light Weight ก็ยังมีเป้อย่าง Gregory Optic และ Octal ที่เป็นเป้น้ำหนักเบาหวิว เป็นเป้แบบ Ventilation เช่นเดียวกัน ใครที่ชอบความเบาและคล่องตัว น่าจะเหมาะกับเป้รุ่นนี้เลย

นอกจากเป้ 2 แบบนี้ก็จะมีเป้บางรุ่นที่เป็นเหมือนลูกผสม ที่ตัวเป้อยู่ใกล้แผ่นหลัง แต่ในขณะเดียวกันก็มีช่องให้ระบายอากาศได้ อย่างเช่น Gregory Paragon และ Maven เป้ตระกูลนี้ จะมีโครงหลังที่ไม่เหมือนใคร ทำให้รับน้ำหนักที่ดีกว่าเป้ Ventilation และระบายอากาศได้ดีกว่าเป้ On the Back เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบความผสมผสานที่ลงตัว

 

ไซส์ของเป้ คืออะไร สำคัญแค่ไหน?

อย่างหนึ่งที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดก็คือถ้าคุณใส่เสื้อไซส์ L แล้วเป้ไซส์ L จะพอดีกับคุณ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ ขนาดของเป้ที่จะพอดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า Torso Length หรือความยาวหลัง ซึ่งค่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสูงหรือขนาดตัวโดยตรง เช่นคนที่มีความสูงเท่ากันไม่ได้แปลว่าจะใช้เป้ไซส์เดียวกันเสมอไป

เป้แต่ละรุ่นก็จะมีไซส์ให้คุณเลือก 2-3 ไซส์ โดยไม่เกี่ยวกับความจุของเป้ เช่น Baltoro 65 V3 ก็จะมีไซส์ให้เลือก 3 ขนาด คือ S,M และ L ซึ่งทั้ง 3 ขนาดมีความจุใกล้เคียงที่ประมาณ 65 ลิตร แต่จะมีความยาวหลังไม่เท่ากัน เป้ไซส์ใหญ่กว่า ก็จะมีความยาวหลังมากกว่า ถ้าพูดกันง่ายๆ ก็คือ ตำแหน่งของสายสะพายจะอยู่สูงกว่านั่นเอง

เป้ของ Gregory ออกแบบมาให้มีขนาดเหมาะสมกับความยาวหลังของผู้ใช้ เพื่อให้ได้การถ่ายเทนำ้หนักที่ดีที่สุดและทำให้คุณสะพายเป้ได้อย่างสบาย ดังนั้นการเลือกขนาดเป้ให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ หากเราใช้เป้ไซส์เล็กเกินไป เวลาสะพายสายคาดเอว ก็จะอยู่สูงกว่าที่ควรทำให้อึดอัด ถ้าไซส์ใหญ่เกินไป สายคาดเอวก็จะอยู่ต่ำ ทำให้น้ำหนักไปลงที่ไหล่มากจนปวดไหล่เวลาสะพาย

 

วิธีการวัดความยาวหลังนั้นไม่ยากเลย ด้วยขั้นตอนง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น สำหรับผู้ใหญ่วัดแค่ครั้งเดียวก็จะสามารถใช้ค่านี้ไปได้ตลอด ไม่ต้องจำเป็นต้องวัดใหม่ทุกครั้งที่ซื้อเป้

1.) หาตำแหน่งด้านบนสุดของกระดูกเชิงกรานหรือกระดูกสะพวก ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ในระดับเดียวกับสะดือ

2.) หาตำแหน่งกระดูกสันหลัง C7 ซึ่งเป็นข้อกระดูกที่ใหญ่ที่สุดบริเวณท้ายทอย

3.) วัดระยะห่างระหว่างสองจุดในแนวตั้ง

ขั้นตอนตรงนี้สามารถให้ทางร้านตัวแทนจำหน่ายเป้ช่วยวัดให้หรือ เพียงแค่คุณได้ลองสะพายเป้ขนาดต่างๆ ก็จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง

เมื่อได้ระยะความยาวหลังแล้วก็สามารถมาเทียบไซส์ได้จากตารางด้านล่างนี้

จะเห็นได้ว่าในการเลือกเป้ให้เหมาะสมนั้น มีอยู่ 3 เรื่องที่เราต้องพิจารณา ความจุไหนที่พอดีกับการใช้งานของเรา เป้รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด และเป้ไซส์ไหนที่พอดีกับความยาวหลังของเรา เมื่อได้คำตอบทั้ง 3 อย่างนี้แล้ว คุณก็จะได้เป้ที่พร้อมออกเดินทางไปกับคุณได้อย่างเต็มที่