การเลือกหม้อใครคิดว่าไม่สำคัญ
หลังจากการเดินทางที่ยาวนาน วันอันเหน็ดเหนื่อยในป่าดง ไม่มีอะไรจะสุขไปกว่าการแช่น้ำในห้วย, ล้อมวงกินอาหารอร่อยๆกับเพื่อนฝูง แล้วเอนหลังลงนอนบนที่นอนอุ่นๆ นุ่มๆ
หม้อทำอาหารเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งของการออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งครับ หม้อสำหรับเดินป่าแค้มปิ้งมีให้เลือกมากมายครับ ทุกแบบล้วนทำอาหารให้เรากินได้ ไม่มีหม้ออะไรดีอะไรไม่ดี แต่หม้อแต่ละชนิดมีจุดเด่นต่างๆกันและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันครับ
คุณสมบัติของหม้อไม่ว่าจะเป็นวัสดุ, สารเคลือบ, รูปทรง และความหนา ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการใช้งานของหม้อครับ ลองมาดูกันทีละข้อเลยครับ
เริ่มจากวัสดุที่ใช้ทำหม้อกันก่อน
วัสดุที่ใช้ทำหม้อเดินป่า แค้มปิ้ง นี่มีมากมายหลายชนิดครับ เช่น
- อะลูมินั่ม
- อะโนไดซ์อะลูมินั่ม
- ไททาเนียม
- สเตนเลส
- เหล็กหล่อ (Cast Iron)
ลองมาดูกันทีละตัวนะครับ

1. Aluminium
อะลูมินั่ม, อะลูมิเนียม หรืออะไรก็แล้วแต่จะเรียกกัน เป็นวัสดุที่เหมาะมากที่จะเอามาใช้ทำเครื่องครัวสำหรับการเดินป่าแค้มปิ้งครับ เพราะมันมีน้ำหนักเบา, ราคาถูก และนำความร้อนได้มีประสิทธิภาพมาก เรียกได้ว่าส่งผ่านความร้อนได้ดีที่สุดในกลุ่มนี้เลยครับ
ข้อเสียของอะลูมินั่มมก็มีเพียงที่ว่าพื้นผิวค่อนข้างนิ่มเป็นรอยหรือบุบง่าย และถ้าหากโดนอาหารที่เป็นกรดจะถูกกัดได้ง่าย
ป.ล. เคยมีข้อสงสัยกันว่าหม้อ อะลูมินั่มใช้ทำอาหารได้ปลอดภัยหรือเปล่ามีผลต่อสุขถาพอย่างไรมั๊ย จากการศึกษา(ของต่างประเทศนะครับ ไม่ใช่ผมศึกษาเอง) ไม่พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรนะครับ

2. Anodized Aluminum
จากจุดอ่อนของอะลูมินั่ม ก็เลยมีการเอาอะลูมินั่มมาทำผิวให้แข็งทนทานขึ้นด้วยวิธี อะโนไดซ์ (Anodized) ซึ่งก็คือการสร้างชั้นของ Oxide ที่มีความแข็งขึ้นที่ผิวของอะลูมินั่ม ซึ่งก็จะยังคงคุณสมบัติที่ดีเรื่องการนำความร้อนได้ดีอยู่เหมือนเดิม
อะโนไดซ์อะลูมินั่มเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการทำเครื่องครัวเดินป่าแค้มปิ้งครับ

3. Titanium
ไททาเนียม เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่าอะลูมินั่มมาก ไททาเนียมนำความร้อนได้ไม่ดีเท่าอะลูมินั่ม แต่เนื้อจากความแข็งแรงของวัสดุ หม้อไททาเนียมจึงสามารถทำให้บางมากๆได้ แข็งแรงทำให้ทำบางได้ แต่ส่งความร้อนได้ดีไม่เท่าอะลูมินั่มในความหน้าที่เท่ากัน
หม้อ Titanium นั้นเป็นหม้อที่น้ำหนักเบาที่สุดและแข็งแรงมาก จึงเป็นที่ไฝ่ฝันหาของนักเดินทางสายป่าแม้ว่ามันจะมีราคาแพงหว่าหม้ออื่นๆมาก อ่านถึงตรงนี้อย่าเพิ่งรีบวิ่งไปซื้อหม้อไททาเนียมนะครับ ถึงแม้จะมีสมยานามว่า “หม้อเทพ” หม้อไทาเนียมไม่ได้เหมาะกับงานทุกอย่างครับ เพราะความที่มันบางและนำความร้อนได้ดีทำให้การส่งความร้อนไปยังอาหารเป็นจุดไม่กระจายตัว เหมาะจะใช้ต้มน้ำเป็นหลักครับ ทำอาหารที่ต้องการจายความร้อนให้ทั่วๆ อย่างหุงข้าวนี่ไม่ได้เลยครับไหม้หมดทุกครั้ง

4. Stainless Steel
สเตนเลสเป็นวัสดุที่ทนทานที่สุดอย่างหนึ่งที่จะหามาทำภาชนะได้ มันทนทานต่อการใช้งานหนัก ตั้งกับกองไฟก็ไม่พัง ไม่ทำปฏิกริยาต่ออาหารที่มีฤิทธิ์เป็นกรดหรือด่าง เนื่องจากเนื้อสเตนเลสนั้นไม่ค่อยมีรูพรุ่นทำให้ทำความสะอาดแล้วมีคราบอาหารหรือเชื้อโรคตกค้างน้อยมาก ผิวก็แวววาวงดงามตาไม่ว่าจะใช้งานหนักแค่ไหนก็ยังดูสวยเหมือนเดิม
ข้อเสียนะหรือครับ น้ำหนักครับ สเตนเลสหนักกว่าอะลูมิเนียมมากครับ นอกจากนี้สเตนเลสยังนำความร้อนได้ไม่ดีเท่าอะลูมิเนียมทำให้ต้องใช้เวลาและพลังงานมากกว่าในการทำอาหารครับ

5. Cast Iron
กระทะหรือหม้อเหล็กหล่อยังไม่เป็นที่รู้จักหรือนิยมกันมากนักในบ้านเรา แต่ถ้าทำความรู้จักกับมันสักนิดคุณจะพบว่าเครื่องครัวที่ทำจากเหล็กหล่อนั้นมีความสุดยอดมากในการทำอาหารบางชนิด ด้วยคุณสมบัติพิเศษสามอย่างของมันที่วัสดุอื่นไม่มีคือ
- การทนความร้อนที่สูงมาก การทนความร้อนสูงไม่มีอะไรเทียบเหล็กหล่อได้ครับ แม้แต่สเตนเลสที่ว่าทนก็ไม่ควรใช้ความร้อนสูงเกินไป เหล็กหล่อสามารถใช้กับกองไฟได้โดยไร้กังวล
- การกระจายความร้อนได้ทั่วถึง ด้วยคุณสมบัติของโลหะและความหนา ทำให้กระทะหรือหม้อเหล็กหล่อกระจายความร้อนไปอย่างทั่วถึงมากๆ
- เก็บความร้อนได้นาน เมื่อทำให้ร้อนแล้วเหล็กหล่อจะเก็บความร้อนได้นานมาก ทำให้มันเหมาะที่จะใช้ทำอาหารประเภทอบ หรือตุ๋นมากครับ
เนื่องด้วยเราสามารถใช้กระทะเหล็กหล่อที่อุณภูมิสูงๆได้มากกว่าอย่างอื่น ทำให้เราสามารถทำอาหารอย่างสเต็กที่ข้างในเป็น Medium rare แต่ข้างนอกกรอบอร่อยเหมือนปิ้งไฟได้เลยทีเดียว นอกจากนั้นก็เหมาะที่จะใช้ทำอาหารที่จะตั้งไฟกันข้ามคืนอย่างตุ๋นหรือสตูโดยไม่ต้องกังวลเลย
เคล็ดลับอีกอย่างของภาชนะเหล็กหล่อคือเราสามารถเคลือบกันติดได้คล้ายๆ เทฟล่อนได้ง่ายๆ ครับ โดยการทาน้ำมันพืชที่ผิวให้ทั่วแล้วเอาไปอบที่ 250องศา นาน 90 นาที จากนั้นเอาไปทำอาหารก็ไม่ติดแล้วครับ
การเคลือบผิว
ทั้งด้วยเหตุผลความขี้เกียจและเหตุผลทางสุขภาพทำให้ภาชนะที่มีการเคลือบผิวกันติดเป็นที่นิยมมากทั้งในครัวที่บ้านและครัวกลางแจ้ง
การเคลือบผิวภาชนะนี้ทำให้เราไม่ต้องใช้น้ำมันมากนักในการทำอาหาร การทำความสะอาดหลังจากใช้ก็ง่ายมาก การเคลือบผิวภาชนะนี่มีหลายวัสดุและวิธีครับ ลองมาดูกันทีละอันนะครับ

1. Teflon เทฟลอน
เทฟล่อนเป็นการเคลือบผิวที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากที่สุดครับ (แม้แต่กระทะดังที่คล้ายๆว่ามาจากเกาหลี ก็ยังใช้) เรามีภาชนะที่เคลือบเทฟล่อนกันแทบจะทุกครัวเรือน ด้วยความแพร่หลายทำให้ภาชนะเทฟล่อนมีราคาถูกลงจนหาซื้อมาใช้ได้อย่างง่ายดายภาพหม้อ Fire-Maple เคลือบเทฟล่อนภาชนะที่เคลือบด้วยเทฟล่อนมีข้อจำกัด ที่ไม่ควรจะใช้ที่อุณภูมิสูงเกินไปครับ 500องศา คืออุณภูมิสูงสุด (ตั้งกับกองไฟนี่ห้ามเด็ดขาดเลย) เพราะมีผลทำให้มีสาร ระเหยออกมามีผลเสียทั้งต่อสุขภาพเราและสิ่งแวดล้อม (สัตว์ปีกจะไว้ต่อสารนี้มากกว่าคนและจะตายง่ายมากครับ)สิ่งที่แลกมาอีกอย่างก็คือภาชนะเคลือบนี้จะมีการนำความร้อนต่ำกว่าทำให้ร้อนช้าและใช้พลังงานมากกว่าภาชนะที่ไม่เคลือบครับ ภาชนะเทฟล่อนนี่ก็เหมือนของอื่นๆละครับ มีทั้งของธรรมดา, ของดี และของไม่ดี ดูเหมือนๆ กันแต่จริงๆแล้วไม่เหมือนกัน ของที่ผมเคยใช้มาก็ต่างกันมากครับ
Radiance Teflon นี่เป็น Teflon ชนิดพิเศษที่ Dupont และ GSI พัฒนาขึ้นมาสำหรับการใช้งานแค้มปิ้งโดยเฉพาะครับ มีคุณสมบัติที่ร้อนเร็วกว่าเทฟล่อน ทนความร้อนได้ดีกว่า และทนต่อการขัดถูมากกว่า
เครื่องครัวที่ใช้ทนมากๆอีกชุดหนึ่งคือชุด LiTech จาก Primus ครับ ทาง Primus ไม่ได้โฆษณาอะไรมากเพียงแต่บอกว่าเคลือบหลายชั้น แต่ผมใช้มาจะสิบปีแล้ว (ใช้แบบผมด้วยนะ) ยังไม่ลอกไม่พัง อันนี้ทนจริงไม่ต้องทุ่มโฆษณาครับ
คำแนะนำสำหรับการใช้เครื่องครัวที่เคลือบเทฟล่อนให้ปลอดภัยคือ
1) อย่าใช้ไฟแรง
2) อย่าตั้งกระทะหรือหม้อเปล่าๆบนไฟโดยไม่มีอาหารหรือน้ำมันที่จะรับความร้อนต่อไปจากมัน
3) เลือกใช้ภาชนะเคลือบเทฟล่อนยี่ห้อดีๆ ไว้ก่อนครับ

2. Ceramic เซรามิก
การเคลือบเซรามิกเป็นสิ่งใหม่ในวงการ non-stick ครับ ว่ากันว่าเป็นการเคลือบที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่สุดที่จะหาซื้อได้ในท้องตลาดเพราะเป็นสารเคลือบกันติดที่ไม่มีสารพิษแม้จะใช้กับอุณหภูมิสูง

3. Enamel เอนาเมล
การเคลือบ Enamel เป็นการเคลือบที่เก่าแก่ที่สุดในสามประเภทที่เราเอามาคุยกันครับ การเคลือบ Enamel ทำได้โดยการใส่อนุภาคของแก้วลงไปบนผิวของภาชนะโลหะ ทำให้ได้ผิวที่เรียบลื้น, ไม่ติดและไม่ไม่ทำปฏิกริยากับอาหาร
ภาชนะที่เคลือบ Enamel ปลอดภัยต่อสุขภาพ, สวยงาม และทนต่อความร้อนสูงได้ดี ยิ่งถ้าเป็นภาชนะที่ทำจากเหล็กหล่อเคลือบ Enamel นี่ยิ่งใช้งานได้ทนทานมากจะตั้งในกองไฟหรือใช้ความร้อนสูงนานๆก็ไม่มีปัญหา นื่องจากเนื้อ Enamel นั้นเรียบสนิทไม่ค่อยมีรูพรุ่นทำให้ทำความสะอาดแล้วมีคราบอาหารหรือเชื้อโรคตกค้างน้อยมาก
ข้อด้อยของ Enamel ก็คืออาจจะกระเทาะได้ครับ เพราะ Enamel คือการเคลือบด้วยแก้วจึงไม่ทนต่อการกระแทก
ถ้าได้รับการดูแลดีๆ ภาชนะเคลือบ enamel นี่จะทนชั่วลูกชั่วหลานแบบที่เราเคยเห็นคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เราใช้มาแล้วครับ

รูปทรงของหม้อ
รูปทรงของหม้อมีผลต่อการใช้งานทำอาหารที่แตกต่างกันครับ
หม้อทรงแคบสูงนั้นมีข้อดีที่รับพลังงานจากเตาขนาดเล็กได้ดีเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้ายิ่งมีครีบรับความร้อนรอบด้านล่างก็จะได้ประสิทธิภาพจากพลังงานสูง ตั้งบนเตาหัวถังได้ดีไม่ล้ม แต่ข้อเสียคือการกระจายความร้อนไม่ทั่วถึงอาหารด้านบนครับ เรื่องที่เห็นง่ายๆก็คือถ้าใส่เต็มหม้อจะหุงข้าวยากมากครับเพราะข้างล่างจะไหม้ก่อนที่ข้างบนจะสุก
ถ้าคุณเดินทางน้อยคน ต้องการหม้อขนาดเล็กที่ตั้งกับเตาหัวถังขนาดเล็กได้ดี ลองดู 2-3 ชุดนี้นะครับ
หม้อทรงนี้เหมาะสำหรับการต้มน้ำ, ทำหรืออุ่นอาหารที่เป็นของเหลว ครับ
หม้อทรงกว้างเตี้ย มีข้อดีที่ความร้อนจะกระจายไปถึงอาหารข้างบนได้ทั่วถึง เหมาะกับการทำอาหารแบบไทยๆมากกว่าหม้อทรงสูง แต่ไม่เหมาะที่จะใช้กับเตาขนาดเล็กเพราะความร้อนจะกระจายไปไม่ทั่วและถ้าใช้กับเตาหัวถังก็อาจจะล้มได้ง่ายมาก
ถ้าคุณชอบทำกับข้าวหลากหลายควรจะหาหม้อทรงนี้จะเหมาะกว่า แล้วก็หาเตาที่เข้ากันได้ดีครับ

1. หม้อทรงสูง
หม้อทรงนี้เหมาะสำหรับการต้มน้ำ, ทำหรืออุ่นอาหารที่เป็นของเหลวครับ

2. หม้อทรงเตี้ยกว้าง
หม้อทรงกว้างเตี้ย มีข้อดีที่ความร้อนจะกระจายไปถึงอาหารข้างบนได้ทั่วถึง เหมาะกับการทำอาหารแบบไทยๆมากกว่าหม้อทรงสูง แต่ไม่เหมาะที่จะใช้กับเตาขนาดเล็กเพราะความร้อนจะกระจายไปไม่ทั่วและถ้าใช้กับเตาหัวถังก็อาจจะล้มได้ง่ายมาก

3. ชุดหม้อขนาดใหญ่
ถ้าคุณชอบทำกับข้าวหลากหลายควรจะหาหม้อทรงนี้จะเหมาะกว่า แล้วก็หาเตาที่เข้ากันได้ดีครับ

ประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงปะทะการทำอาหาร
ถ้าคุณจะต้องแบกน้ำหนักเดินไกลๆ คุณคงมองหาหม้อที่ถ่ายทอดพลังงานไปยังอาหารได้สูงสุดซึ่งก็หมายถึงการประหยัดเชื้อเพลิงที่จะต้องแบกไปด้วย
หม้อลักษณะนี้คือหม้อทรงสูง ทำจาก อะลูมินียมหรือไททาเนียมทรงสูง ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีกก็คือหม้อที่ออกแบบมาเป็นชุดกับเตาเพื่อให้สูญเสียพลังงานน้อยที่สุด
ถ้าคุณต้องการทำอาหารให้อร่อยสุดๆด้วยเมนูหลายหลายกินกันให้กระจายในแค้มป์แบบไม่เกี่ยงน้ำหนัก (น้ำหนักภาชนะและและน้ำหนักคนที่จะเพิ่มขึ้นหลังไปแค้มป์) คุณต้องจัดอุปกรณ์ที่ต่างกันไปอย่างสุดขั้วครับ เช่นเมนูง่ายๆแบบนี้
กระทะและหม้อที่หนาอย่าง Cast Iron อย่างหม้อ Dutch Oven นี่จะกระจายไฟได้ทั่วถึงมาก ไม่มีการร้อนเป็นจุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับความร้อนสูงๆหรือนานๆได้โดยไม่จำกัด และยังเก็บความร้อนได้นานอีกด้วย มันจึงเหมาะมากที่จะใช้ทำอาหารแบบเชฟกลางป่า ไม่ว่าจะเป็นการทอดสเต็ก, ทำสตู, ตุ่นไก่ ฯลฯ อันนี้ต้องให้คุณแมงดึกมาเล่าต่อครับ ลองดูเป็นตัวอย่างกันสักสองสามเมนูครับ

เลือกขนาดของหม้อ
การเลือกขนาดของหม้อจะขึ้นกับจำนวนคนและชนิดของอาหารที่คุณจะทำและเป็นตัวกำหนดว่าคุณควรจะใช้เตาแบบไหนครับ
การคำนวนหรือกะง่ายๆในการเลือกขนาดหม้อคือหม้อหลักควรจะมีความจุประมาณ 500-700 cc ขึ้นไป ต่อสมาชิกหนึ่งคนในทีม ซึ่งจะมีขนาดกำลังดีไม่ว่าจะเป็นการต้มน้ำเพื่อเตรียมอาหาร Freeze Dry, หุงข้าวหรือต้มยำทำแกง
เช่น ถ้าหากคุณเดินทางคนเดียว เดินทางไกลที่ต้องการลดน้ำหนักลดขนาดของที่จะนำติดตัว ต้องการเพียงทำอาหารง่ายๆเช่นต้มน้ำใส่อาหาร Freeze Dry, ต้มบะหมี่ หรือแม้แต่หุงข้าวง่ายๆ คุณก็น่าจะเลือกหม้อขนาดเล็กๆประกอบเข้ากับเตาแก๊สหัวถังขนาดเล็กๆ เช่นหม้อ GSI Sololist กับเตา MSR Pocket Rocket หรือ ชุดหม้อพร้อมเตาอย่างเช่น Primus Lite+
หากคุณเดินทางสองคน ทางเลือกมีเยอะมากครับ เดินทางไกลที่ต้องการลดน้ำหนักลดขนาดของที่จะนำติดตัว ต้องการเพียงทำอาหารง่ายๆ ก็คล้ายกับชุดคนเดียวเพียงแต่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น คุณก็น่าจะเลือกหม้อขนาดประมาณ 1.5-2 ลิตร ประกอบเข้ากับเตาแก๊สหัวถังขนาดเล็กๆ เช่นหม้อ GSI Dualist หรือ MSR Trail Lite Duo กับเตา MSR Pocket Rocket หรืออาจจะเป็นเตาแก๊สแยกถังขนาดเล็กอย่าง Primus Express Spider หรือใช้เป็น ชุดหม้อพร้อมเตาอย่างเช่น MSR WindBurner
ถ้าจะทำกับข้าวมากหน่อย หุงข้าวทำกับข้าวไปเดินป่าหรือในแค้มป์ ก็น่าจะเลือกชุดหม้อทรงกว้าง เช่น Fire-Maple 202, Primus LiTech หรือ GSI Pinnacle Base Camper Small ประกอบเข้ากับเตาแก๊สหรือเตาน้ำมันแยกถังที่ให้ไฟกว้างๆเช่น Fire-Maple-105, Coleman 533 หรือ MSR WhisperLite

ถ้าไปแค้มป์แบบสุขสันต์กันเป็นคณะใหญ่ เน้นที่จะทำอาหารกันให้สนุก ก็น่าจะมองหาเตาน้ำมันสองหัว หรือ เตา BBQ ที่ใช้ถ่านไม้เลยนะครับจะทำอาหารสนุกสนานขึ้นอีกมาก
ถ้าจะไปแค้มป์หรือเดินป่ากันโดยทำกับข้าวกับกองไฟก็น่าจะต้องใช้เครื่องครัวที่เป็นสเตนเลสหรือเหล็กหล่อเป็นหลักครับ เพราะหม้อกระทะที่ทำจากอลูมิเนียมหรือ ไททาเนียมนั้นไม่สามารถทนความร้อนของกองไฟได้ครับ
ว่ามายืดยาวมาก แต่ถ้าจะสรุปสั้นก็คือ จำนวนคนและรูปแบบของการเดินทางจะเป็นตัวกำหนดชนิดของของเตาหรือไฟที่คุณจะเลือกใช้ และก็เป็นตัวกำหนดชนิดของหม้อที่คุณควรเลือกใช้ครับ